โครงการพระราชดำริ
“ ...แต่มาเงยดูท้องฟ้า มีเมฆ ทำไมมีเมฆอย่างนี้ ทำไมจะดึงเมฆนี่ลงมาให้ได้ ก็เคยได้ยินเรื่องการทำฝน ก็มาปรารภกับคุณเทพฤทธิ์ ฝนทำได้มีหนังสือ เคยอ่านหนังสือทำได้... ”
| |
จากพระราชดำรัสนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระองค์ท่านได้ทรงสังเกตเห็นว่ามีเมฆจำนวนมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่สามารถก่อตัวรวมกันจนเกิดเป็นฝนได้ทำให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระยะยาว ทั้งๆ ที่เป็นช่วงฤดูฝน และด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร ที่ต้องประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และเกษตรกรรม เนื่องจากภาวะแห้งแล้งซึ่งมีสาเหตุมาจากความคลาดเคลื่อนและความผันแปรของฤดูกาลตามธรรมชาติ พระองค์ท่านก็ทรงคิดคำนึงว่าน่าจะมีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่จะทำให้เมฆรวมตัวกันจนเกิดฝนได้
| |
แม่น้ำป่าสักเป็นแม่น้ำสายสำคัญของชาวจังหวัดลพบุรีและสระบุรีไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกรรมและการประมง แต่ในเดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคม ของทุกปี จะเกิดน้ำท่วมในจังหวัดลพบุรีและรวมถึงจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับช่วงเดือนมกราคม – เดือนพฤษภาคม ก็จะเกิดภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำใช้เพื่ออุปโภค บริโภค และเกษตรกรรมด้วยความห่วงใยในพสกนิกร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหาทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยให้ “ ความโหดร้าย ” ของแม่น้ำป่าสักกลับกลายเป็นความสงบเสงี่ยมที่น่านิยม เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 พระองค์ท่านจึงได้มีพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมของโครงการเขื่อนเก็บกักน้ำแห่งแม่น้ำป่าสัก เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและบรรเทาอุทกภัยในเขตกลุ่มน้ำป่าสัก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงปัญหาน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พระองค์ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริในการแก้ปัญหาด้านน้ำท่วมนี้ โดยวิธีการที่ตรัสว่า “ แก้มลิง ” ซึ่งได้พระราชทานอรรถาธิบายว่า
“ ...ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกแล้วเอาเข้าปากเคี้ยว แล้วเอาไปเก็บไว้ที่แก้ม ลิงจะเอากล้วยเข้าไปไว้ในกระพุ้งแก้มได้เกือบทั้งหวี โดยเอาไปเก็บไว้ที่แก้มก่อนแล้วจึงนำมาเคี้ยวบริโภคและกลืนกินเข้าไปภายหลัง... ” ซึ่งหมายความว่าเมื่อเกิดน้ำท่วมก็ขุดคลองเพื่อนำน้ำให้มารวมกันแล้วนำมาเก็บไว้เป็นบ่อพักน้ำ ก็เปรียบเหมือนแก้มลิง แล้วจึงระบายน้ำลงทะเล เมื่อปริมาณน้ำทะเลลดลง ลักษณะของงานเป็นการระบายน้ำออกจากพี้นที่ตอนบนให้ไหลไปตามคลองในแนวเหนือใต้ ลงคลองพักน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณชายทะเลเมื่อระดับน้ำทะเลลดต่ำลงกว่าระดับน้ำในคลองก็นำการระบายน้ำจากคลองดังกล่าวออกทางประตูระบายน้ำ โดยใช้ | ||||||||||
หลักการทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลก (Gravity Flow) และสูบน้ำออกเพื่อให้น้ำในคลองพักมีระดับต่ำที่สุดซึ่งจะทำให้น้ำจากคลองตอนบนไหลลงสู่คลองพักน้ำได้ตลอดเวลา แต่เมื่อระดับน้ำทะเลสูงกว่าระดับน้ำในคลองก็จะปิดประตูระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น